การระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวิธีการทำงานและสถานที่ทำงาน รวมไปถึงเป็นตัวเร่งให้เกิด Digital Adoption ทำให้เทคโนโลยีกลายมาเป็นส่วนสำคัญต่อองค์กรในยุค New Normal อย่างมาก
หลายองค์กรจึงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบออฟฟิศใหม่ให้กลายเป็น Hybrid Office เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานยุค COVID-19 นั่นก็คือการทำงานรูปแบบ Hybrid Working คือ การทำงานที่ผสมผสานระหว่าง การทำงานที่บ้าน (Work from Home) การทำงานที่ออฟฟิศ และการทำงานทางไกล (Remote Working)
โดยการปรับปรุงออฟฟิศในลักษณะนี้ จะสามารถช่วยตอบโจทย์กับสถานการณ์ปัจจุบัน ช่วยลดความเสี่ยงเมื่อต้องกลับมาทำงาน นอกจากนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถยังคงบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หากเกิดโรคระบาดขึ้นในอนาคต
ในบทความนี้เราจะพามารู้จัก 4 ประโยชน์ ของการปรับพื้นที่ทำงานให้กลายเป็น Hybrid Office
4 ประโยชน์ของ Hybrid Office
1. เพิ่ม Productivity ให้แก่พนักงาน
การให้อิสระกับพนักงานในการเลือกพื้นที่หรือสถานที่ทำงานที่เหมาะกับการทำงานแต่ละประเภท และตรงต่อความต้องการของแต่ละแผนกหรือบุคคล ภายใต้ Flexible Working Policy ขององค์กร จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของการทำงานมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากการทำงานแต่ละประเภทนั้นอาจจะแตกต่างกันไป เช่น ในบางงานอาจจะต้องการพื้นที่เงียบสงบ หรือในบางงานอาจจะต้องการพื้นที่ที่สามารถทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานเพื่อแชร์ไอเดียต่างๆ
ทั้งนี้นอกจากนี้ พนักงานที่อยู่ไกลจากออฟฟิศจะสามารถมี Work Life Balance ที่ดีขึ้น เนื่องจากสามารถลดเวลาการเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศเป็นประจำ
2. ลดต้นทุน
ต้นทุนค่าเช่าพื้นที่สำนักงานนั้นเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ขององค์กร ดั้งนั้นการปรับออฟฟิศมาเป็น Hybrid Office จะช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ลง เนื่องจากพื้นที่สำนักงานใหญ่มีขนาดเล็กลง และสามารถกระจายออฟฟิศไปยังพื้นที่ต่างๆ รวมไปถึงยังช่วยพนักงานลดค่าในการเดินทาง เพราะสามารถที่จะเลือกทำงานจากที่บ้าน หรือที่ออฟฟิศสาขาย่อยที่ใกล้กับที่พัก
3. ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
เมื่อพนักงานมีความยืดหยุ่นในการเลือกสถานที่ทำงาน ทำให้ไม่ถูกกำหนดให้ทำงานในสภาพแวดล้อมเดิม การได้ทำงานในสถานที่ทำงานที่หลากหลาย จะทำให้ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ก็จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้ดียิ่งขึ้น
4. รองรับการขยายตัวของสำนักงาน
Hybrid Office จะช่วยให้พนักงานมีอิสระในการเลือกสถานที่ทำงานจากที่ต่างๆ ทำให้องค์กรสามารถรับคนได้มากขึ้น เพราะการทำงานไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพียงแค่ที่สำนักงานใหญ่เท่านั้น องค์กรจึงสามารถที่จะเติบโตได้มากยิ่งขึ้นแม้ออฟฟิศมีขนาดเท่าเดิม
นอกจากนี้ยังเป็นการดึงดูด New Talent เพราะสามารถทำงานจากระยะไกล หรือจากที่ต่างๆ ได้ ซึ่งองค์กรสามารถขยายการเข้าถึงพนักงานที่มีความสามารถได้จากหลากหลายที่
สรุป
Hybrid Office รูปแบบออฟฟิศในยุค New Normal ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีประโยชน์ในหลากหลายด้าน ทั้งช่วยตอบโจทย์การทำงานในยุคปัจจุบัน ด้วยการให้พนักงานมีอิสระในการเลือกสถานที่ทำงานเองได้ โดยออฟฟิศจะกลายเป็นพื้นที่ในการทำงานร่วมกันมากกว่าการทำงานแบบส่วนตัว เช่น การระดมความคิด หรือการประชุม เป็นต้น
ดังนั้น การบริหารจัดการการทำงานจากที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานใหญ่ บ้าน หรือ Remote office องค์กรจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีเข้ามาใช้ อย่าง Workplace Plus ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถบริหารทั้งพื้นที่พร้อมทั้งพนักงานได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ก้าวสู่ Hybrid Office ได้สมบูรณ์แบบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
หากองค์กรไหนกำลังมองหาโซลูชันครบวงจร สำหรับบริหารจัดการ Hybrid Workplace อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถติดต่อได้ที่ ExzyWorkplacePlus 096-9595-193 หรือ contact@exzy.me